๒๕. มนุษย์เกิดในไข่และมนุษย์เกิดในเถ้าไคล

มนุษย์ในไข่
มนุษย์บางคนมีกำเนิดแบบอัณฑชะกำเนิด คือ เกิดในไข่
ในช่วงหลังพุทธกาล พราหมณ์คนหนึ่งในเมืองปาตลีบุตรเข้าไปในป่า ได้พบกินรีนางหนึ่งมีรูปเป็นสตรีสวยงามมาก พราหมณ์หลงรักนางกินรีจึงอยู่ร่วมสังวาสกับนางจนมีครรภ์ เมื่อครบกำหนดนางกินรีได้คลอดไข่ออกมาสองฟอง นางกินรีฟักไข่จนแตกออกมาเป็นทารกชายสองคน คนพี่ชื่อดิสสกุมาร คนน้องชื่อมิตรกุมาร
เมื่อสองกุมารโตขึ้น พิจารณาว่าพวกเราสองพี่น้องมีกำเนิดไม่เหมือนกุมารอื่น เพราะมีบิดาเป็นมนุษย์ แต่มารดาเป็นกินรี การเกิดในสงสารนี้ไม่มีอะไรแน่นอนเลย คิดแล้วสองพี่น้องจึงชวนกันไปบวช และสำเร็จเป็นพระอรหันต์ทั้งสององค์



มนุษย์ในเถ้าไคล
มนุษย์ที่มีกำเนิดแบบที่สาม คือ สังเสทชะกำเนิด หรือมนุษย์เกิดในเถ้าไคล มีปรากฏในประวัติของพระอุบลวรรณาเถรี ในอดีตชาติครั้งที่พระเถรีเกิดเป็นพระนางปทุมวดีนั้นมีบุตรที่เกิดจากเถ้าไคลถึง ๔๙๙ องค์
ในอดีตชาติหนึ่งพระอุบลวรรณาเถรีเกิดเป็นธิดาคนยากจน วันหนึ่งนางเก็บข้าวสาลีมาคั่วข้าวตอกได้ ๕๐๐ ดอก นำไปถวายพระปัจเจกพุทธเจ้า พร้อมกับถวายดอกบัวที่เก็บมาจากสระ แล้วตั้งความปรารถนาว่าขอให้มีบุตร ๕๐๐ คนตามจำนวนข้าวตอกนี้ ด้วยอานิสงส์นี้ทำให้นางไปอุบัติเป็นเทพธิดาในสวรรค์ จุติแล้วมาเกิดแบบโอปปาติกกำเนิดเป็นทาริกาในดอกบัว มีพระฤๅษีเก็บไปเลี้ยงจนเติบใหญ่ ได้เป็นเทวีพระเจ้าพาราณสีนามว่า พระนางปทุมวดี
พระนางปทุมวดีมีโอรส ๕๐๐ องค์ ตามความปรารถนาที่ตั้งไว้ แต่มีองค์เดียวที่ประสูติจากพระครรภ์ ที่เหลือ ๔๙๙ องค์ ล้วนมีกำเนิดแบบสังเสทชะคือเกิดจากโลหิต พระโอรสทั้งหมดนั้นเป็นผู้มีบุญมาก ภายหลังได้สำเร็จเป็นพระปัจเจกพุทธเจ้าทั้งหมด




ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น