
ชมพูทวีป หรือโลกมนุษย์ของเรานี้ ตั้งอยู่ทางทิศใต้ของเขาสิเนรุ อยู่ระหว่างเขาอัสสกัณณ์กับเขาจักรวาล มีน้ำล้อมรอบ เป็นทวีปใหญ่ ๑๐,๐๐๐ โยชน์ มีทวีปน้อย ๕๐๐ เป็นทวีปบริวาร

ชมพูทวีปได้รับแสงจากแก้วมรกตบนไหล่เขาสิเนรุ พื้นดิน แผ่นน้ำ และต้นไม้ในทวีปนี้จึงมีสีน้ำเงินแกมเขียว

มนุษย์ชาวชมพูทวีปมีลักษณะใบหน้ารูปไข่
มีอุปนิสัยที่โดดเด่นแตกต่างจากมนุษย์ ๓ ทวีปแรก ๓ อย่าง คือ

๑. มีความกล้า กล้าทำกุศล และกล้าทำอกุศล

๒. มีสติ รู้จักการใช้ปัญญาพิจารณา

๓. สามารถประพฤติพรหมจรรย์อันยอดเยี่ยมได้

ด้วยอุปนิสัยที่ชาวชมพูทวีปมีสติปัญญารู้ว่าสิ่งใดมีประโยชน์หรือไร้ประโยชน์ สิ่งใดเป็นกุศลหรืออกุศล จึงมีความกล้าในการประกอบกุศลกรรมอันยอดเยี่ยมได้ ชมพูทวีปจึงเป็นที่อุบัติของพระพุทธเจ้า พระปัจเจกพุทธเจ้า และพระอรหันต์ หรือในขั้นต่ำก็สามารถเป็นผู้ทรงญานทรงอภิญญา แต่ในด้านร้าย ชาวชมพูทวีปคนใดไร้สติไม่ใช้ปัญญาพิจารณากลายเป็นผู้หลงผิด เขานั้นย่อมมีใจเหี้ยมหาญสามารถทำกรรมชั่วช้าได้ง่าย รวมทั้งอนันตริยกรรมฆ่าบิดามารดา ฆ่าพระอรหันต์ ซึ่งมนุษย์อีก ๓ ทวีปไม่สามารถทำได้เพราะใจไม่เข้มแข็งเด็ดเดี่ยวพอ

มนุษย์ชมพูทวีปมีอายุขัยไม่คงที่ คราวใดที่มนุษย์ชาวชมพูทวีปมีจิตใจโน้มเอียงมาทางชั่ว มนุษย์ก็จะทำกรรมชั่วกันทั้งโลก อายุขัยของมนุษย์จะเสื่อมทรามลดลงเรื่อยๆ จนกระทั่งเหลือแค่ ๑๐ ปี แต่คราวใดที่มนุษย์ชาวชมพูทวีปโน้มเอียงไปทางดี มนุษย์ก็จะทำดี มีศีลมีธรรมกันอย่างยิ่งยวด อายุก็จะยืนยาวถึงอสงไขยปี ซึ่งนับว่ายืนยาวมาก ยาวกว่ามนุษย์อีก ๓ ทวีป และยาวกว่าเทวดาบนสวรรค์อีกด้วย

ตัวอย่างอันใกล้คือในพุทธกาลของพระพุทธเจ้าองค์ต่างๆ ในภัททกัปนี้ ชาวชมพูทวีปก็มีอายุขัยแตกต่างกัน คือ

สมัยพระกุกกุสันธะพุทธเจ้า อายุขัย ๔๐,๐๐๐ ปี

สมัยพระโกนาคมนะพุทธเจ้า อายุขัย ๓๐,๐๐๐ ปี

สมัยพระพุทธกัสสปะพุทธเจ้า อายุขัย ๒๐,๐๐๐ ปี

สมัยพระสมณโคตมะพุทธเจ้า อายุขัย ๑๐๐ ปี

และสมัยพระศรีอาริยเมตไตรยซึ่งจะมาอุบัติในอันตรกัปหน้า ชาวชมพูทวีปจะมีอายุขัย ๘๐,๐๐๐ ปี

ชมพูทวีปมีต้นไม้ใหญ่ประจำทวีป คือ ต้นหว้า หรือต้นชมพูตามชื่อของทวีป
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น