โรงเรียนเสลภูมิพิทยาคม

โรงเรียนเสลภูมิพิทยาคม

วันอาทิตย์ที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2558

๔. ทุคติภูมิ ๔

๔. ทุคติภูมิ ๔

ทุคติภูมิ ๔
สรรพสัตว์เมื่อเกิดขึ้นแล้วย่อมมีโอกาสทั้งสร้างบุญและบาป ผลของบุญและผลของบาปเหล่านั้นเรียกว่า วิบากกรรม เป็นชนกกรรมนำให้สรรพสัตว์เวียนว่ายไปในวัฏฏสงสาร เกิดแล้วตาย ตายแล้วเกิดอยู่ในภพภูมิต่างๆ เพื่อเสวยผลบุญที่เป็นสุขใน สุคติภูมิ และเสวยผลบาปที่ทุกข์ทรมานใน ทุคติภูมิ
ทุคติภูมิ คือ ภูมิที่ชั่ว ลำบาก เดือดร้อน เต็มไปด้วยความทุกข์โดยส่วนเดียว ไม่มีผู้ใดปรารถนาอยากไปเกิดในภพภูมิเหล่านี้เพราะหาความสุขไม่ได้เลย เป็นภูมิที่ต่ำ ต่ำเพราะตั้งอยู่ใต้เขาสิเนรุ และต่ำในความสุข มีความสุขน้อยมีความทุกข์มาก มนุษย์หรือเทวดาที่ไปอุบัติในภูมิเหล่านี้จึงเรียกว่าเป็นผู้ตกต่ำ ตกจากที่สูงไปสู่ที่ต่ำ ตกจากที่สบายไปสู่ที่ลำบาก เรียกว่า ไปสู่อบาย ทุคติ วินิบาต นรก
อบายภูมิ หรือทุคติภูมิ ประกอบไปด้วย ๔ ภพภูมิ คือ
๑. นรกภูมิ
๒. เปรตภูมิ
๓. อสุรกายภูมิ
๔. ดิรัจฉานภูมิ
นรกภูมิ
นรกภูมิหรือนิรยภูมิ ตั้งอยู่ลึกลงไปในปฐพีทิพย์ใต้ภูเขาสิเนรุ เป็นภพภูมิที่ต่ำที่สุด เต็มไปด้วยความทุกข์ลำบากมากที่สุด มีไว้สำหรับลงโทษสัตว์นรกผู้มีใจบาปหยาบช้า ให้สาสมกับบาปกรรมชั่วที่เคยทำไว้สมัยที่เกิดเป็นมนุษย์
สัตว์นรกทุกตนล้วนได้รับทุกข์ทรมานแสนสาหัส ต่อเนื่อง ไม่มีเวลาว่างเว้นแม้เพียงเสี้ยวเวลาแค่ลมพัดผ่าน พระพุทธเจ้าตรัสถึงสัตว์ในนรกว่า
ดูกรภิกษุทั้งหลาย
ทุกข์โทมนัสที่บุรุษได้รับเพราะถูกแทงด้วยหอกสามร้อยเล่ม เปรียบเทียบกับความทุกข์ของนรก ยังไม่ถึงแม้ส่วนแห่งเสี้ยว ไม่อาจเทียบกันได้
ดูกรภิกษุทั้งหลาย
สัตว์นรกจะถูกนายนิรยบาลตรึงตะปูเหล็กแดงที่มือทั้งสองข้าง ที่เท้าทั้งสองข้าง และที่ทรวงอก สัตว์นรกต้องเสวยทุกขเวทนาแรงกล้า เจ็บแสบ อยู่อย่างนั้นนานเท่านาน ไม่มีวันตาย ตราบเท่าที่บาปกรรมยังไม่สิ้นสุด
ดูกรภิกษุทั้งหลาย
สัตว์นรกจะถูกนายนิรยบาลจับพุ่งลงในหม้อทองแดงที่ร้อนเดือดพล่าน ถูกต้มเดือดเป็นฟอง พล่านขึ้นข้างบน พล่านลงข้างล่าง พล่านไปซ้าย พล่านไปขวา เสวยทุกขเวทนาแรงกล้า เจ็บแสบ อยู่อย่างนั้นนานเท่านาน ไม่มีวันตาย ตราบเท่าที่บาปกรรมยังไม่สิ้นสุด
ฯลฯ
มนุษย์ส่วนใหญ่ไม่รู้ว่าความทุกข์ในนรกนั้นมากมายขนาดไหน บางคนเมื่อพบกับอุปสรรคปัญหาหรือมีความทุกข์มากก็ท้อถอยคิดฆ่าตัวตายเพื่อหนีทุกข์ เขาเหล่านั้นไม่เคยได้ฟังคำสั่งสอนของพระพุทธองค์หรือของใคร จึงไม่รู้เลยว่าความทุกข์ที่สุดบนโลกมนุษย์นั้นเทียบไม่ได้เลยกับเศษเสี้ยวของความทุกข์ในนรก ถ้าหากรู้เขาคงไม่กล้าคิดฆ่าตัวตายเป็นแน่ เหมือนชายคนหนึ่งที่รู้ถึงความทุกข์ในนรก แม้ถูกหลาวเสียบร่างอยู่ยังสู้อดทนไม่ยอมตาย
ในครั้งพุทธกาล มีพ่อค้าคนหนึ่งค้าขายอยู่ในตลาดในกรุงเวสาลี เขาเห็นพื้นทางเดินมีน้ำขังเป็นหล่มตม คนเดินทางผ่านไปมาต้องกระโดดข้ามด้วยความลำบาก พ่อค้าจึงนำกระดูกศีรษะโคมาวางปิดหล่มตมไว้ทำให้เดินไปมาได้ง่ายขึ้น แต่เขาโชคร้ายเพราะหลานชายไปขโมยของชาวบ้าน เจ้าหน้าที่ตามมาจับพบของกลางอยู่ในร้าน พ่อค้าจึงถูกลงโทษประหารชีวิต ส่วนหลานชายถูกจับเสียบหลาวประจานไว้ที่หน้าประตูเมืองปล่อยให้ตายช้าๆ อย่างทรมาน
พ่อค้าเมื่อตายแล้วได้ไปเกิดเป็นเวมานิกเปรต เสวยผลบุญที่เอากระดูกโคปิดเปือกตม และเสวยผลบาปที่เคยเล่นสนุกลักผ้าสาฎกของเพื่อนไปซ่อน เมื่อตรวจดูกรรมของหลานชาย รู้ว่ากรรมชั่วจะนำหลานชายไปนรกเท่านั้น ทุกเที่ยงคืนเวมานิกเปรตจึงไปหาหลานชายที่ถูกหลาวเสียบอยู่ พร่ำบอกว่าเจ้าต้องอดทนไว้อย่ารีบตาย เจ้าทำกรรมชั่วไว้มากหากตายตอนนี้เจ้าจะต้องตกนรก ความทุกข์ทรมานของเจ้าจากการถูกหลาวเสียบจนร่างทะลุเลือดไหลโทรมกายขณะนี้ เทียบไม่ได้เลยกับเศษเสี้ยวของความทุกข์ทรมานที่เจ้าจะต้องไปรับในนรก ดังนั้นเจ้าจงอดทนไว้ เพราะเจ้ามีชีวิตอยู่แม้จะทุกข์ขนาดไหนก็ยังดีกว่าตายไปตอนนี้
หลานชายฟังแล้วจึงพยายามอดทนต่อความเจ็บปวดทรมานไม่ยอมตาย
สมัยนั้นเจ้าลิจฉวีชื่อ อัมพสักขระ เกิดหลงรักหญิงชาวบ้านคนหนึ่งซึ่งมีสามีแล้ว จึงใช้อุบายสั่งให้สามีของหญิงนั้นไปนำดอกอุบลกับดินสีอรุณนอกเมืองกลับมาให้ทันเวลาเย็น เมื่อสามีของหญิงนั้นออกไปแล้วก็สั่งให้ปิดประตูเมืองไม่ให้เขากลับเข้าเมืองได้เพื่อใช้เป็นเหตุประหารชีวิตเขา สามีของหญิงนั้นกลับมาทันเวลาแต่เข้าเมืองไม่ได้จึงนั่งอยู่หน้าประตูเมือง คืนนั้นเขาได้พบกับเวมานิกเปรตที่มาให้กำลังใจหลานชาย จึงขอร้องให้เวมานิกเปรตช่วยเป็นพยานว่าเขากลับมาทันเวลา
รุ่งเช้าเจ้าลิจฉวีจะประหารชายผู้เป็นสามี แต่เขาอ้างว่าเวมานิกเปรตเป็นพยานได้ว่าเขากลับมาทันเวลา คืนนั้นเจ้าลิจฉวีจึงอยู่รอพบเวมานิกเปรต เวมานิกเปรตได้เล่าเรื่องราวบุญกรรมของตนที่ทำให้เกิดเป็นเปรตเสวยทั้งทุกข์และสุข อีกทั้งเล่าถึงโทษทัณฑ์ทั้งหลายในขุมนรกว่าทุกข์ทรมานแสนสาหัสยิ่งนัก เจ้าลิจฉวีฟังแล้วรู้สึกหวาดกลัวนรกมากจนเลิกคิดแย่งชิงหญิงมีเจ้าของ และสำนึกว่าเวมานิกเปรตผู้นี้มีบุญคุณที่ทำให้ตนรู้จักบาปกรรม จึงทำบุญถวายผ้าจีวรพระอรหันต์แล้วอุทิศผลบุญให้ เวมานิกเปรตได้โอกาสจึงขอให้เจ้าลิจฉวีทำทานใหญ่ คือให้ชีวิตหลานชายด้วย
หลานชายเวมานิกเปรตได้รับการปล่อยตัว หลังรักษาตัวจนหายแล้วจึงออกบวช ปฏิบัติสมณธรรมไม่นานนักก็สำเร็จเป็นพระอรหันต์ รอดพ้นจากโทษทัณฑ์ที่ต้องไปรับในนรกได้ในที่สุด
หลานชายของเวมานิกเปรตผู้นี้ไม่ได้ทำกรรมชั่วมากมายนัก แต่โทษทัณฑ์ที่เขาจะต้องไปรับในนรกยังรุนแรงยิ่งกว่าถูกหลาวเสียบ จึงไม่ควรสงสัยเลยว่าผู้ที่ทำกรรมชั่วหนักกว่านี้ เมื่อไปสู่นรกแล้วจะต้องถูกลงโทษให้ต้องทุกข์ทรมานมากมายขนาดไหน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ชาญวิทย์ ปรีชาพาณิชพัฒนา

ชาญวิทย์  ปรีชาพาณิชพัฒนา